สถาบันเครดิตบุโรทำหน้าที่อะไรกันแน่ มีหลายๆ คนสอบถามกันเข้ามาว่า เครดิตบุโรคืออะไร ทำหน้าที่อะไร และคำว่าติดแบล็คลิสต์ คือมีผลอย่างไร  วันนี้ที่นี่จะมีคำตอบให้กับพวกคุณครับ

คำว่าเครดิตบุโรนั้น ก็คือ สถาบันการบันทึกข้อมูลประวัติการชำระการผ่อนหนี้สินต่างๆ ของบุคคลหนึ่งที่เก็บรวบรวมไว้ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อให้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจการปล่อยสินเชื่อหรือธุรกรรมทางการเงินให้กับบุคคลที่เข้าไปยื่นข้อ ดังนั้นหน้าที่ของสถาบันนี้ก็คือ จะแสดงรายงานเครดิตของคนคนหนึ่งที่มีการกู้ยืมสินเชื่อต่างๆ จากสถาบันการเงิน รวมถึงประวัติการผ่อนชำระว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

ให้กับสถาบันการเงินนั้นตรวจสอบ    แต่ไม่ได้หมายความว่าสถาบันการเงินเหล่านั้นจะสามารถเข้าไปดูได้เลย หากพวกเค้าเหล่านั้นมีความต้องการที่จะดูประวัติการผ่อนชำระหรือประวัติหนี้สินทั้งหมดของคุณนั้น สถาบันการเงินเหล่านั้นต้องได้รับความยินยอน เป็นลายลักษณ์อักษรของคุณก่อน

นั่นก็คือทุกๆครั้งที่เวลาคุณจะทำธุรกรรมอะไร พวกเค้าจะต้องเอาใบยินยอมการตรวจสอบเครดิตบุโร มาให้คุณเซ็นต์ยินยอมนั่นเอง ซึ่งเมื่อคุณเซ็นอนุมัติยินยอมเรียบร้อย สถาบันการเงินเหล่านั้น เค้าก็จะเข้าไปดูข้อมูลการชำระเงินของคุณได้  แต่ข้อมูลเหล่านั้น ทางสถาบันการเงินต่างๆ เค้าจะดูได้เพียงแค่ย้อนหลัง สามสิบหกเดือน หรือพูดง่ายๆ ก็คือสามปี

  หากจะดูย้อนหลังกลับไปมากกว่านั้นจะไม่สามารถทำได้  โดยทางสถาบันการเงินที่คุณไปขอสินเชื่อหรือต้องการทำธุรกรรมด้วย เค้าก็จะเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าเค้าควรจะให้คุณทำธุรกรรมดีหรือไม่นั่นเอง แต่มันจะมีรายการหนี้สินบางประเภทที่จะไม่ถูกบันทึกลงไปในส่วนนี้ นั่นก็คือพวกค่าบริการต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นค่าบริการมือถือ ค่าบริการอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำค่าไฟ ที่ถูกจัดว่าเป็นหมวดของค่าบริการ ที่ไม่ใช่การกู้ยืม สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะไม่ถูกบันทึกเข้าไปในเครดิตบุโรแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นกลุ่มค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้จะไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อหรือธุรกรรมของคุณ

เพียงแต่จะมีผลต่อผู้ให้บริการโดยตรง ก็คือ คุณก็จะถูกระงับบริการและไม่สามารถใช้บริการนั้นได้อีกเพียงแค่นั้น   พูดกันง่ายๆ คือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในระบบการปล่อยสินเชื่อนั้น จะไม่อยู่ในฐานข้อมูลเครดิตบุโร

เชื่อว่าหลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็น่าจะพอเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับว่าการทำงานของเครดิตบุโรเค้าทำอย่างไร และมีกระบวนการการจัดเก็บข้อมูลอย่างไรแล้วใช่มั้ยครับ ดังนั้น หากใครก็ตามที่วางแผนจะทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินใดๆ ก็เตรียมข้อมูล หรือทำประวัติการผ่อนชำระให้ดีๆ เพื่อที่จะทำให้การพิจารณอนุมัตินั้นได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ufabet เว็บตรง