เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในยุคปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีได้ก้าวล้ำนำหน้าไปเป็นอย่างมาก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำให้โลกออนไลน์ของเรานั้นมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากเหลือเกิน ซึ่งนั่นรวมไปถึงการทำธุรกิจด้วย ดังนั้นทำให้ในเวลานี้หลายๆคน ที่ทำธุรกิจคงต้องปรับตัวกันพอสมควรเพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภค จึงทำให้มีร้านค้าที่ก้าวสู่โลกของ E-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) กันเป็นอย่างมาก
ดังนั้นการศึกษาและการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการทำธุรกิจออนไลน์และกลยุทธ์การตลาดในการโปรโมทสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่คนทำธุรกิจนั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ ที่จะทำให้สินค้าของตัวเองสามารถขายสินค้าและเอาชนะคู่แข่งจำนวนมากที่มีอยู่ในตลาดออนไลน์ให้ได้
ซึ่งก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นเราๆที่เป็นคนทำธุรกิจนั้น คงจะต้องเข้าใจคำว่า E-commerce ให้ดีเสียก่อน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคำๆนี้ย่อมาจากคำว่า Electronic Commerce หรือแปลเป็นภาษาไทยก็คือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ นั่นเอง ซึ่งในแง่ของการกระทำก็คือการทำธุรกิจโดยมีการซื้อขายสินค้ากันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในปัจจุบันก็คืออินเทอร์เน็ต
ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งข้อความ เสียง ภาพ และคลิปวิดีโอ ดังนั้นจึงทำให้สามารถที่จะเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางอีกทั้งยังช่วยในการทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินการได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำธุรกิจแบบ E-Commerce นั้นเราจะแบ่งออกได้ประมาณหกกลุ่ม นั่นก็คือ
กลุ่มแรกจะเป็นแบบ B to C นั่นก็คือ Business to Consumer หรือ ธุรกิจกับผู้ซื้อปลีก โดยผู้ซื้อจะซื้อสินค้าปลีกจากผู้ขายผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การซื้อเสื้อผ้า หรือซื้อเครื่องสำอางในปริมาณที่ไม่เยอะ
กลุ่มสองจะเป็นแบบ B to B ก็คือ Business to Business หรือ ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อซื้อขายกัน โดยเป็นการซื้อขายกันแบบปริมาณเยอะๆ เช่นการขายส่งเป็นต้น
กลุ่มสามจะเป็นแบบ B to G คือ Business to Government หรือ ธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เช่นเป็นการจัดจ้างของภาครัฐ โดยเป็นการประกาศผ่านทางเว็บไซด์เพื่อลดค่าใช้จ่าย
กลุ่มสี่จะเป็น G to G คือ Government to Government หรือการติดต่อกันระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลที่เป็นหน่วยงานจะทำการติดต่อกันเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นการติดต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
กลุ่มห้าจะเป็น C to C คือ Consumer to Consumer หรือการติดต่อซื้อขายระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน ที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่เป็นการประกาศซื้อขายของตนเอง และผู้บริโภคอีกคนสนใจก็สั่งซื้อไป
กลุ่มหกจะเป็น G to C คือ Government to Consumer หรือการให้บริการจากทางภาครัฐผ่านสื่ออิเลกทรอนิคส์ เล่นการคำนวณและการเสียภาษี
ซึ่งทั้งหมดก็จะเรียกว่าเป็นการทำธุรกิจแบบ E-Commerce นั่นเอง
สนับสนุนโดย. ufabet เว็บแม่